หรือเปล่า : กาหลา

เรื่องสั้น

ขีดรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสขึ้นกรอบหนึ่ง ขวาและทางทิศตะวันตกมีผนัง ฝั่งซ้ายและด้านหน้าติดถนนเปิดโล่ง ตั้งโต๊ะยาว ๆ ลงไป มีหม้อข้าว หม้อแกง จานชาม รวมสรรพสิ่ง อันประกอบกันขึ้นเป็น ‘ร้านอาหารเล็ก ๆ ‘ แห่งหนึ่ง

ทีนี้ คุณก็ใส่จำนวนคนลงไป ผู้หญิง ผู้ชาย ผู้ชายบุคลิกเหมือนผู้หญิง ผู้หญิงบุคลิกเหมือนผู้ชาย เด็ก คนแก่ แถมแมวสีดำหม่นอีกสักตัวก็คงได้

อย่าลืมจานผักบนโต๊ะอาหาร ขวดพลาสติกบรรจุน้ำดื่ม หรือจะเป็นเมนูอาหาร ที่เสียบทิชชู่ ตะกร้าไข่ต้ม อะไรอีกล่ะ

ครบแล้วหรือ ถ้าไม่มีอะไรขาดตกบกพร่องอีกแล้ว นี่ล่ะ ร้านอาหารปักษ์ใต้ ที่คุณกำลังจะนำมาใช้เป็นฉากในเรื่องสั้นเรื่องหนึ่ง !

เปิดเรื่อง

คุณกำลังนั่งทานอาหารอยู่กับเพื่อน เพื่อนสั่งข้าวผสมขนมจีนราดแกงไตปลา คุณเลือกขนมจีนราดแกงเขียวหวานสูตรนครศรีธรรมราช (แม่ค้าขึ้นป้ายว่าอย่างนั้น) เด็กสาวชาวพม่า (รู้เพราะเธอพูดไทยไม่ชัด) เดินเข้ามาถามว่าจะรับน้ำอะไร คุณสั่งน้ำดื่มสะอาด (หวังว่ามันจะสะอาด) ไม่เอาน้ำแข็ง และขอปลาชิ้งชั้งทอดกรอบอีก 1 จาน เธอผู้นั้นรับคำ จากไป

คุณเริ่มต้นสนทนากับเพื่อน

บทสนทนา

“เป็นไง เรื่องงานไปถึงไหนแล้ว”

“ก็…ได้ทุนมาตามที่ขอ แต่น้อยกว่าที่คิดเยอะ”

“ได้เท่าไหร่”

“ขอไปแปดแสน แต่กระทรวงให้มาแค่แสนแปด แต่ก็ยังดี มีค่าจ้างคนทำงานไปอีกประมาณ 1 ปี”

“จ้างตัวเองละสิ”

“ไม่หรอก ต้องเอามาแบ่ง มาจัดสรรให้ได้ประโยชน์สูงสุด”

“เหนื่อยมั้ย”

“เหนื่อยซี่…(ถอนหายใจ) ทำงานเรื่องสิทธิไม่ใช่ของง่าย ยิ่งเป็นเรื่องสิทธิของคนรักเพศเดียวกัน ข้อจำกัดก็เยอะ เรื่องงี่เง่าก็เยอะ พอ ๆ กัน”

“วันก่อนดูซันนี่ ยูโฟร์ ออกรายการเจาะใจ”

“ฮื่อ สั่งร้านอัดให้ไปแล้ว”

“เสียดาย พิธีกรถามอนาถมาก เน้นแต่เรื่องหลอกลวงประชาชนกับการหาเงิน ทำยังกะว่า ถ้าแสดงตัวเป็นกะเทย เดินเข้าไปในสถาบันการศึกษา เรื่องมันจะง่าย”

“คุยกันเรื่องอื่นก่อนเหอะ เบื่อ”

“เบื่อ แต่ก็นี่ใช่มั้ยล่ะความจริง และสิ่งที่ทำให้เราต้องทำงานกันต่อไป”

บทสนทนาจบลงชั่วคราวตรงนั้น คุณกับเพื่อนทานอาหารกันต่อไปเงียบ ๆ คุณเด็ดยอดใบแมงลักแกล้มขนมจีนตลอดเวลา

“วันนี้ฝนคงตกหนัก” เพื่อนคุณเอ่ยขึ้น

“ฮื่อ” คุณมองดูฟ้าสีเทาหนาหนักทางทิศตะวันออก

“สงสัยวันนี้ยังเปิดเครื่องทำงานไม่ได้ งานก็เร่ง แต่ยังไม่กล้าเสี่ยง ไม่มีเครื่องกันไฟกระชากด้วย เกิดไฟดับกลางทางละแย่แน่”

“ราคาเท่าไหร่หรือ”

“อะไร อ๋อ เครื่องกันไฟกระชากนะหรือ ไม่แพงหรอก สักสามพันห้าก็ซื้อได้ สำคัญที่ไม่มีเงินพอเท่านั้นแหละ”

“เออ ใช่ ราคาไม่ใช่ปัญหา ปัญหาคือไม่มีเงินพอกับราคา”

คุณหัวเราะออกมา

“ตลกดี พูดเหมือนวาทะ วาทะแปลก ๆ”

เด็กสาวชาวพม่ายังคงเดินให้บริการตามโต๊ะต่าง ๆ ลูกค้าทะยอยเข้าร้านมาไม่ขาดสาย บางคนทานอาหารเสร็จก็ลุกออกไป บางโต๊ะทิ้งเศษอาหารเกลื่อนกลาด เริ่มมีแมลงวันตอม

คนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ที่จอดรถเข้าคิวกันยาวเหยียดข้าง ๆ ร้าน พูดคุยกัน แซวกัน บ้างแกล้งตวัดขา ทำท่าจะเตะก้นกันเล่น

เด็กหญิงวัยเจ็ดขวบลูกสาวแม่ค้า สวมชุดสายเดี่ยว อวดไหล่บึกบึน ผิวเนื้อละเอียดสีน้ำตาลคล้ำ ทำให้คุณนึกถึงเม็ดทรายบนชาวฝั่งทางใต้

เอ๊ะ – หรือทรายแม่น้ำ

ผู้คนหมุนเวียน ผลัดเปลี่ยน เดินเข้า เดินออก จากกรอบสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ทีเรียกว่า ‘ร้านอาหารปักษ์ใต้รสดี’

เสื้อผ้าที่ห่อหุ้มร่างกาย แตกต่างทั้งรูปทรง สีสัน ราคา

คุณนึกถึงงานเขียนที่ค้างคาในสมุดบันทึก กับความฝันแปลก ๆ เมื่อคืนที่ผ่านมา

ดูเหมือนคุณจะฝันว่า เห็นผู้หญิงคนหนึ่ง (ไม่แน่ใจ ว่าใช่แม่คุณหรือไม่) นั่งคัดเลือกเศษเนื้อ เศษกระดูกอ่อน ที่สภาพยังดี บนกองร่างกายมนุษย์ที่ถูกแยกชิ้นส่วนหมดแล้ว

พุดง่าย ๆ คือ ป่าช้าศพมนุษย์

คล้าย ๆ ผู้หญิงคนนั้น จะเอาเนื้อไปทำอะไรสักอย่าง หรือเอาไปกิน ความฝันช่างลางเลือน ไม่ปะติดปะต่อ แปลก แล้วก็ดูน่าสะพรึงกลัวอย่างไรบอกไม่ถูก

แต่คุณจำได้แม่นอย่างหนึ่งว่า ข้าง ๆ ร่างผู้หญิงคนนั้นมีพระรูปหนึ่ง นั่งสมาธิ ทีท่าสงบสำรวม

อ้อ ๆ คุณจำได้แล้ว ผู้หญิงคนนั้น หันไปถามพระว่า

“ท่านไม่เอาเนื้อนี่บ้างหรือ ก็อร่อยดีนะ เวลาไม่มีอะไรกิน”

พระหันมาตอบว่า

“ไม่ได้หรอกโยม อาตมาต้องละกิเลส อยู่ ๆ อยากกิน จะหามากินเองคงไม่เหมาะ”

“แล้วถ้าฉันถวายท่านล่ะ”

ดูเหมือนพระท่านจะนิ่งไป แล้วก็ตอบว่า (อย่างผ่านการไตร่ตรองแล้ว)

“งั้นฉันจะถวายให้ท่าน” หญิงคนนั้น ท่าทางกระตือรือร้น เลือกเนื้อสดแดง ๆ ก้อนโต ๆ ใส่ลงในกะละมังสังกะสีผุเก่า สองมือเหี่ยวย่นประคอง ส่งมอบให้พระ

“ฉันรู้ว่าท่านอยาก เอาเถอะ นี่ฉันขอแบ่งถวายให้”

พระมีแววตายินดีปรากฏขึ้นวูบหนึ่ง

“ขอบใจโยม”

คุณวางช้อนลง รู้สึกผะอืดผะอมเมื่อนึกถึงตอนนั้น ดูเหมือนแต่เล็กมาแล้ว ที่คุณมักฝันแปลก ๆ ฝันน่ากลัว และเป็นความฝันประเภทนี้ คุณแน่ใจว่าตัวเองกินต่อไปไม่ได้แน่ ๆ เมื่อภาพลางเลือนในฝันเมื่อคืน ค่อย ๆ แจ่มชัดขึ้นเรื่อย ๆ ในจินตนาการ

คุณแน่ใจแล้วว่า หญิงผู้นั้นคือแม่ของคุณ แม่ผู้ยังคงหิวโหย แม้กระทั่งในความฝัน แม่ผู้ตายไปแล้ว และนั่งเลือกหาชิ้นเนื้อของศพ บนกองเลือดเนื้อกระดูก เพื่อหาก้อนเนื้อที่ดีที่สุด นำมาจุนเจือครอบครัว

คุณทำท่าจะผุดลุกขึ้น

“เป็นอะไร” เพื่อนคุณถาม

“เปล่า รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ”

“โรคกระเพาะกำเริบหรือเปล่า” เพื่อนมีทีท่าห่วงใย

คุณยังรู้สึกขยักขย้อน แต่แล้วก็นั่งลง

“เออ…ไม่เป็นไรแล้วล่ะ เมื่อกี้มันอึดอัดแปลก ๆ รู้สึกอยากอาเจียน”

“งั้นรีบกลับเข้าบ้านดีกว่า เธอต้องกินยาให้ครบนะ เดี๋ยวอาการกำเริบหนักจะยุ่ง”

“ฮื่อ” คุณเช็ดเหงื่อที่ซึมออกมาตามไรผม

“แม่ค้า เก็บตังค์ด้วยค่ะ”

เม็ดฝนเทกระหน่ำลงมาเป็นสายสีเทาหนาหนัก พรั่งพรูต่อเนื่อง มองใกล้ เหมือนเส้นเชือกโปร่งใส ตวัดลงถี่ยิบ กลิ่นน้ำเน่าโชยขึ้นแตะจมูก เสียงรถมอเตอร์ไซค์เร่งเครื่องรวดเร็ว เสียงหมู่คนค้าขายตะโกนบอกกันให้รีบเก็บข้าวของ

คุณกับเพื่อนกางร่มสีแดงลายดอกไม้ เดินห่างออกไปจากร้านอาหารปักษ์ใต้ ด้านหลัง เด็กสาวชาวพม่ายืนแอบผนังร้าน มองตามคุณสองคน ด้วยแววตาที่คงมีเธอผู้เดียวเท่านั้นที่จะเข้าใจ

แล้วคุณก็คิดว่า คุณน่าจะเขียนเรื่องสั้นได้สักเรื่องหนึ่ง เรื่องเล็ก ๆ ในสภาพแวดล้อมเล็ก ๆ เล่าถึงอะไรสักอย่างที่ติดค้างอยู่ในความรู้สึกของคุณ ยามเห็นผู้คนผลัดเปลี่ยนหมุนเวียน – นั่งทานอาหารกันในร้านแคบ ๆ…ที่ไหนสักแห่ง หรืออย่างในร้านนี้

“เดี๋ยววันนี้คงต้องนั่งทำงานต่อ คนที่เจอปัญหาถูกกีดกันเมื่อรักเพศเดียวกันโทรมาเยอะเหลือเกิน” ” เพื่อนคุณพูดขึ้น ก่อนถามต่อ

“ตัวเองจะทำอะไรวันนี้”

คุณนิ่งเงียบ นึกอยากจะตอบไปว่า ‘อยากจะเขียนเรื่องสั้น’

แต่แล้วก็พลันไม่แน่ใจว่า บทสนทนาระหว่างคุณกับเพื่อน ความฝันเมื่อคืน และบรรยากาศชั่วครึ่งชั่วโมงในร้านอาหารข้างถนน จะพอมีสาระ และเป็นเรื่องสั้นที่ดี ‘สักเรื่อง’…

…หรือเปล่า…