บทกวีรีมิกซ์ : เอียง

เรื่องสั้น

อารัมภบท

เรื่องราวที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ บางทีคุณอาจมองว่ามันเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ-ไร้สาระ แต่ถ้าคุณลองพินิจพิเคราะห์ มันดูดี ๆ อีกสักครั้งสองครั้ง คุณอาจตกใจก็ได้ว่ามันเป็นเรื่องจริงที่ภาพยนตร์บางเรื่องถ้านำมันไปสร้างหนัง แล้วล่ะก็เขาจะต้องจั่วหัวไว้เลยว่า Based on true story เรื่องมันเริ่มต้นที่ผมเองนี่แหละแต่มันจะไปจบลงที่ไหน คุณลองอ่านดู

ผมเป็นคนชอบการอ่านมาก แต่ถ้าจะเรียกว่าเป็นหนอนหนังสือก็เรียกได้ไม่เต็มปากเต็มคำเท่าไรนัก เอาอย่างนี้เรียกว่านักอ่านก็แล้วกัน

ก็แน่นอนล่ะครับ เนื่องจากผมเป็นคนรักการอ่าน ผมจึงชอบอ่านหนังสือทุกประเภท แต่ถ้าเอาเข้าจริง ๆ แล้วผมชอบอ่านบทกวีมากกว่าอย่างอื่น ยิ่งถ้าเป็นบทกวีในแนวเพื่อชีวิตแล้วล่ะก็ ต้องพูดว่า ใช่เลย !

แต่ทีนี้มันมีปัญหาเกิดขึ้นกับผมในระยะหลัง เรื่องมันมีอยู่ว่าผมเริ่มสับสนเป็นอย่างมากกับคำว่า “เพื่อชีวิต” เพราะที่ผ่าน ๆ มานี้ มันมีการทุ่มเถียงกันอย่างมากเกี่ยวกับคำว่าเพื่อชีวิต-ไม่เพื่อชีวิต อะไรนี่แหละ ซึ่งก็มีบางกระแสความคิดที่พยายามหลีกหนีคำว่าเพื่อชีวิตแล้วหันไปใช้คำว่า “สร้างสรรค์” แทน แต่นั่นมันไม่ใช่ประเด็นที่ผมจะเล่าให้คุณฟังหรอก

แถมยังมีเรื่องอีกบางเรื่องที่สร้างความปวดกบาลเป็นอย่างมากสำหรับผม แต่สำหรับนักอ่านคนอื่น ผมไม่รู้นะว่าเขาคิดยังไงกับเรื่องนี้ เรื่องไหนน่ะเหรอครับ ก็เรื่องที่เป็นเรื่องอยู่ในแวดวงกวีเมืองไทยนั่นแหละ ประเภทบทกวีแบบฉันทลักษณ์หรือไม่ฉันทลักษณ์ อันไหนสำคัญกว่ากัน หรือไม่ก็บทเพลงนี่นับเป็นบทกวีด้วย หรือเปล่า และก็พวกเรื่องบทกวีเพื่อชีวิตทำไมมันแก้ปัญหาสังคมไม่ได้ อะไรเทือกนี้แหละ เอาตัวอย่างเพียงแค่นี้ ก็พอมั้ง…..เป็นไงล่ะครับ ? ตอนนี้คุณเริ่มปวดกบาลเหมือนผมแล้วหรือยัง ? นี่ยังไม่นับเรื่องที่คนเขียนบทกวีจะแต่งงานกับใครอีกนะเนี่ย

แต่ก็อย่างว่าแหละครับ ใครจะคิดยังไงก็ให้เขาคิดไปเถอะ มันไม่ใช่สาระอะไรหรอกสำหรับคนอ่านหนังสือ มาเข้าเรื่องที่ผมอยากจะเล่าให้คุณฟังกันดีกว่าเพราะผมไม่อยากจะพูดถึงเรื่องปวดกบาลอย่างนั้นอีกแล้วล่ะ

เรื่องที่จะเล่านั้นก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวผมเองนั่นแหละ แต่อาจจะเกี่ยวกับใคร ๆ อีกบ้างก็ช่างมันเถอะ ลองอ่านดูก็แล้วกัน….. หลังจากที่ผมอ่านบทกวีมาได้สักระยะหนึ่ง ไม่รู้ว่าเหตุผลกลใดหรือแรงบันดาลใจอะไรก็ช่างมันเถิด มาสะกิดต่อมอยากดังของผมเข้าให้ เอ๊ะ ! หรือว่าชาติที่แล้วผมเกิดเป็นกวีหรือเปล่าหนอ ? แต่ก็เอาเถอะ มันก็ทำให้ ผมเกิดความอยากเป็นกวีกับเขาบ้างแล้วล่ะ ทีนี้ทำไงดีล่ะ ?

ผมถามตัวเองแล้วก็ตอบตัวเองไปด้วยเลยว่า ก็ลงมือเขียนสิวะ !

จากนั้นมาผมก็ตั้งหน้าตั้งตาเขียนมันอย่างเอาเป็นเอาตาย เขียนมันทั้งเช้าสายบ่ายเย็น แต่คงไม่ถึงขนาด ต้องไปเป็นนักใช้ชีวิตอย่างที่เขาว่ากันหรอก เอาเป็นว่าผมตั้งใจก็แล้วกัน

ขั้นต่อมาน่ะเหรอ ก็ตามเสต็ปเป๊ะเลยล่ะครับ ส่งมันไปตามหน้านิตยสารต่าง ๆ อ๊ะ อ๊ะ บทกวีเพื่อชีวิต หรือบทกวีสร้างสรรค์ อะไรเนี่ยแหละของผมนั้น ผมว่ามันน่าจะเหมาะกับนิตยสารการเมืองรายสัปดาห์นะ ผมคิด แล้วผมก็ส่งมันไป…..

รอผ่านเกิด

ทีนี้มันก็ถึงขั้นตอนรอผ่านเกิด มันสมชื่อจริง ๆ ครับเสต็ปนี้ คือ รอ ร๊อ รอ รอแล้วรอเล่า ก็ยังไม่มีวี่แวว ที่มันจะผ่านซักกะที

และมันก็มีวลีอยู่อันหนึ่งที่ผมชอบมาก ๆ เลยก็คือคำพูดที่ว่า “ถังขยะสร้างนักเขียน” ผมท่องคติพจน์นี้ จนขึ้นใจ มันสร้างความหวังให้กับผมอย่างมากเลยล่ะ จากนั้นผมก็พากเพียรเขียนบทกวีอย่างหนักหน่วงกว่าเก่า ลืมบอกไปช่วงหลัง ๆ มานี่เขาเรียกกันว่ากวีนิพนธ์ครับ เวลาผ่านไปเหมือนสายน้ำไม่ย้อนกลับมา เวลามันติดปีกบินด้วยครับ

เวลาผ่านไปผ่านไปแล้วก็ผ่านไป บทกวีของผมก็ยังไม่ได้ผ่านเกิดกับเขาซักกะที ผมเริ่มท้อ…..

ปาฏิหารย์มันมีจริง

แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่น่าเชื่อก็บังเกิดขึ้นกับตัวผม…..เย็นวันหนึ่งขณะที่ผมกำลังท่องเว็บอยู่นั้น….. เอ้อ ขอโทษนะสำหรับคนอ่านที่ไม่รู้ว่าเว็บมันคืออะไร ขออภัยจริง ๆ ถ้าจะบอกว่าขอให้ไปค้นคว้าเพิ่มเติม ก่อนจะอ่านต่อไป หรือไม่ก็รบกวนไปถามคนที่รู้ก็แล้วกัน ผมไม่อยากจะพรรณาอะไรเกี่ยวกับเว็บเพราะมันจะยืดยาวเกินไป เสียเวลาคนที่เขารู้แล้วน่ะครับ (ผมเป็นกวีอัลเทอร์เนทีฟครับ)

ถึงไหนแล้ว…..อ้อ ถึงตอนที่ผมไปท่องเว็บ บังเอิญไปเจอเว็บไซต์อยู่เว็บไซต์หนึ่ง มันเป็นเว็บไซต์ที่ให้เรา ดาวน์โหลดโปรแกรมใหม่ตัวหนึ่งไปลองใช้ แค่ผมเห็นที่เขาบรรยายสรรพคุณของโปรแกรมเท่านั้นแหละครับ ความโลภ-โกรธ-หลงก็เข้าครอบงำทันที อยากจะดาวน์โหลดมาเก็บไว้แล้วแฮกเข้าไปลบมันออกไปจากเว็บไซต์ เดี๋ยวนั้นเลยทีเดียว ทำไมน่ะเหรอครับ โธ่ ! ก็มันคือสุดยอดโปรแกรมเท่าที่โลกมนุษย์เคยมีมาก็ว่าได้…..

แม่งเอ๊ย ! (ขออภัยเพราะมันสะใจจริง ๆ ครับ) โปรแกรมที่ว่านี้มันคือโปรแกรมตัดต่อคำภาษาไทยน่ะสิครับ อ้าวแค่ตัดต่อคำแค่เนี๊ยแล้วมันวิเศษตรงไหน ? คุณคงถามคำถามนี้อยู่ในใจใช่มั้ยล่ะ…..เปล่าเลยนอกจากมันจะ ตัดต่อคำแล้ว มันยังฉลาดมาก ๆ ที่สามารถจัดเรียงถ้อยคำในไฟล์ข้อความให้สละสลวย และที่สำคัญมันทำได้ถึงขนาดแก้ไขข้อความต้นฉบับทั้งหมดให้เป็นข้อความใหม่ที่ถูกอกถูกใจคนอ่านน่ะซี่ !!! อเมซิ่งมั้ยล่ะครับ ?

อย่าครับ อย่าเพิ่งงง หรือคิดว่าผมกำลังโกหกคำโต ผมจะยกตัวอย่างระบบที่มันคล้าย ๆ กันกับโปรแกรม ที่ผมได้มานี้ ถ้าคุณพอจำได้ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่เมืองนอกนั้น เวลาที่พวกบุคคลสำคัญ ๆ เขาได้รับจดหมายจากผู้คนที่ส่งมาถึง ซึ่งตามมารยาทแล้วบุคคลสำคัญท่านนั้นจะต้องตอบจดหมายเหล่านี้ทุกฉบับเลยทีเดียว ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็ไม่ได้การแล้วล่ะ มันมากมายก่ายกองแค่ไหนคุณคิดดูเอาเอง ลองคิดดูเล่น ๆ นะครับว่าถ้าคนระดับคลินตัน ต้องมานั่งตอบจดหมายแม่งทุกฉบับ คุณว่ามันจะเป็นยังไง โอเค เขามีทีมที่ทำงานอยู่ช่วยตอบจดหมายให้ก็ตาม แต่ถ้าคิดถึงหัวอกทีมงานสักกะนิด เอาแค่นี้ก็น่าสงสารพวกเขาแล้วใช่มั้ย ? ว่าแล้วทางนั้นเขาก็แก้ปัญหาโดยคิดค้นโปรแกรมตอบจดหมายให้ท่านขึ้นมา โดยโปรแกรมตอบจดหมายดังกล่าวมันก็จะเปรียบเทียบรูปแบบเนื้อความใน จดหมาย มันถอดเอาทีละตัวอักษรแล้วใช้โปรแกรมแสกนอ่าน…..จากนั้นก็นำไปคอมแพร์กับดาต้าเบสที่มีอยู่ว่า ควรจะต้องตอบไปแบบไหนจึงจะเหมาะสม หลังจากนี้แล้วก็เป็นขั้นตอนตอบ ซึ่งโปรแกรมก็จะเลือกคำตอบที่เข้าท่าเรียบร้อยแล้วก็พิมพ์เป็นจดหมายส่งตอบไปเลย เห็นไหมล่ะว่ามันเป็นเรื่องจริงไม่อิงนิยาย ที่พูดมานี่กำลังจะยกตัวอย่างให้เห็นว่าโปรแกรมประเภทแบบนี้มันมีจริงนะครับในโลกมนุษย์เรา รวมถึงเจ้าโปรแกรมที่ผมใช้อยู่นี้ด้วยก็เครือ ๆ เดียวกันครับ

วันนี้ที่รอคอย

หลังจากที่ผมดาวน์โหลดมันลงมาใช้งานแล้ว ผมก็ศึกษามันอีกระยะหนึ่ง พบว่ามันต้องการข้อมูลเพิ่มเติม จากผมอีกเล็กน้อย กล่าวคือ มันต้องการตัวอย่างข้อความที่ถูกอกถูกใจบุคคลที่ผมต้องการให้เขาถูกอกถูกใจเมื่ออ่าน ข้อความของผม แน่ล่ะ ก็บรรดาบรรณาธิการที่พิจารณาบทกวีของผมนั่นแหละที่ผมต้องการ

ผมก็จัดแจงเอาบทกวีตัวที่ผ่านเกิดทั้งหลาย แน่ล่ะครับ มันไม่ใช่บทกวีของผมหรอก บทกวีของกวีท่านอื่น ๆ ที่ได้ลงตีพิมพ์ตามสนามต่าง ๆ ที่ผมใฝ่ฝันนั่นแหละครับ ผมก็หยิบเอามันมาเล่มละนิดเล่มละหน่อยแล้ว นำมาแสกน เข้าไปแล้วเซฟลงไปในดาต้าเบสของโปรแกรม เท่านี้แหละคุณเอ๋ย…..ไม่ว่าฝีมือการเขียนของคุณจะห่วยเพียงไรก็ตาม โอเคมันไม่ห่วยในสายตาคุณหรอก แต่มันบังเอิญไปห่วยในสายตาบรรณาธิการ ยังไงก็ช่างหัวมันเถอะนะ ไอ้โปรแกรมที่ว่านี้มันก็จะจัดการเรียบเรียง และตัดต่อบทกวีของคุณให้ต้องตาต้องใจบรรณาธิการที่คุณจะส่งบทกวีไปให้เขาพิจารณากันเลยทีเดียว วิธีการก็ง่าย ๆ หลังจากที่คุณแสกนตัวอย่างบทกวีผ่านเกิดเหล่านั้นเข้าไปในเครื่องแล้ว คุณก็ส่งไฟล์บทกวี ของคุณเข้าสู่โปรแกรมที่ว่านี้ จากนั้นคุณก็เลือกเอาสิว่าจะส่งมันไปสนามไหน เท่านี้ โปรแกรมก็จะจัดการ ขัดเกลาบทกวีของคุณให้เรียบร้อย เรียกได้ว่าพอ บ.ก.คนนั้น ๆ หยิบมันขึ้นมาอ่านเมื่อไหร่ละก็ เป็นต้องร้อง ช่ายยย…..เลย

ผมดังแล้วครับ

นับตั้งแต่นั้นมา กวีนิพนธ์ของผมก็ทยอยออกสู่สายตาสาธารณะชนทีละชิ้นทีละชิ้น ทุกสนามที่รับพิจารณา บทกวีตีพิมพ์ไม่อาจปฏิเสธบทกวีของผมไปได้เลยสักชิ้นเดียว ถึงตรงนี้ ก็อย่างที่ผมเกริ่นไว้ใน “อารัมภบท” นั่นแหละว่า บางทีคุณอาจมองว่ามันเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ-ไร้สาระ แต่ถ้าคุณลองพินิจพิเคราะห์มันดูดี ๆ อีกสักครั้งสองครั้ง คุณอาจตกใจก็ได้ว่ามันเป็นเรื่องจริงที่ภาพยนตร์บางเรื่องถ้านำมันไปสร้างหนังแล้วล่ะก็เขาจะต้องจั่วหัวไว้เลยว่า Based on true story มันไม่ใช่เวทมนต์หรือไสยศาสตร์ แต่มันคือวิทยาศาสตร์-ศาสตร์ที่ต้องการบทพิสูจน์ แล้วมันก็ พิสูจน์ได้จริง ๆ จากตัวผมนี่แหละ ซึ่งตัวคุณเองต้องเคยอ่านบทกวีของผมมาแล้วทั้งนั้น ผมมั่นใจ

ทีนี้ชื่อเสียงของผมเริ่มเป็นที่คุ้นเคยในแวดวงการอ่านการเขียน ทั้งนักวิจารณ์ ทั้งกวีรุ่นพี่ ต่างตกอกตกใจ กันถ้วนหน้ากับกวีหนุ่มน้องใหม่ไฟแรง ว่ามันเป็นใครมาจากไหน ลูกเต้าเหล่าใคร หรือถามไถ่กันว่ามันโผล่มาจากไหนวะเนี่ย แม้กระทั่งวิเคราะห์กันไปต่าง ๆ นานา บ้างก็ว่ามันเป็นกวีรุ่นเดอะปลอมนามปากกาหรือเปล่าวะ บางคนก็สงสัยว่ามันสังกัดกวีกลุ่มไหน เพราะว่านักเขียนหรือกวีนี่เขานิยมสังกัดกลุ่มกันนะสิครับ

เวลาผ่านไป ผ่านไป ผ่านไปสักระยะหนึ่ง ผมก็เข้าสู่เสต็ปต่อไปคือ การรวมเล่ม…..

ผมรวยแล้วครับ

หลังจากที่ผมดังแล้วก็มีสำนักพิมพ์มากมายยื่นข้อเสนอขอจัดพิมพ์รวมบทกวีของผม เป้าหมายของพวกเขา ก็คือส่งรวมบทกวีของผมเข้าประกวดรางวัลโอเชี่ยนไรต์ครับ

แต่ช้าก่อนครับ การพิมพ์รวมเล่มเป็นความภาคภูมิใจของกวีที่มีงานตีพิมพ์นั่น หมายความว่าผลงานของคุณได้ปรากฏในบรรณพิภพ ผมเองก็เหมือนกัน บอกตรง ๆ เลยว่าภูมิใจเช่นกันครับ ยิ่งได้ส่งประกวดโอเชี่ยนไรต์ผมยิ่งภูมิใจเข้าไปอีกเป็นทวีคูณ ทำไมน่ะเหรอครับ ? ก็โปรแกรมที่ผมใช้ตัดต่อบทกวีนี้มันทำให้ผมมั่นใจเป็นอย่างมากว่าผมต้องได้โอเชี่ยนไรต์อย่างแน่นอน ยังไงน่ะหรือครับ ? ก็ผมจัดการเอาบทกวีที่ชนะเลิศการประกวดแสกนเข้าไปเรียบร้อยแล้วน่ะสิครับ อย่าไปห่วงเรื่องคณะกรรมการเลยครับ ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปยังไง โปรแกรมนี้มันก็ฉลาดมาก ๆ มันใช้วิธีการจับมาตรฐานการตัดสินแล้วเอามาวิเคราะห์-ขัดเกลา-แก้ไข จนบทกวีของผมดีเลิศและปิ๊งมากเลยครับสำหรับคณะกรรมการ

ไม่ต้องเดาหรอกครับ ผมได้โอเชี่ยนไรต์เรียบร้อยแล้ว มันก็แปลว่าผมรวยแล้วครับ ยอดขายถล่มทลายไปกับกระแสโอเชี่ยนไรต์ และมันก็ขายดีแค่เล่มผมเล่มเดียวเองนะในฤดูโอเชี่ยนไรต์ ขายดีกว่าขายร่มตอนหน้าฝนเสียอีก มันก็เป็นอย่างงี้แหละครับประเทศไทย ไอเลิฟยู

เดินสาย-ถ่ายรูป

เสต็ปต่อไปคือการเดินสายไปให้ความรู้แก่น้อง ๆ ตามสถานศึกษา รวมทั้งให้สัมภาษณ์ตามสื่อต่าง ๆ มากมายนับไม่ถ้วน เล่นเอาเหนื่อยไปเลยครับ แต่ขอโทษ ผมชอบครับ ผมหลงรักโอเชี่ยนไรต์มากเลยล่ะ ชื่อเสียงของผมเป็นที่รู้จักกันในระดับประเทศแล้วครับ ฉะนั้นอย่าแปลกใจที่คุณจะพบผมตามงาน เสวนาวรรณกรรมแทบทุกงานเลย แหมก็ผมน่ะโปรดปรานจริง ๆ เลยละครับไอ้เดินสาย-ถ่ายรูปเนี่ย

ขึ้นหิ้ง

เสต็ปต่อมาผมขึ้นหิ้งซะแล้วครับ รางวี่รางวัลต่าง ๆ ผมรับมาหมดประเทศแล้วครับ รางวัลปราชญ์ ราหู รางวัลสัปดาห์หนังสือเลหลังแห่งชาติ รางวัลคณะกรรมการโน่นนั่นอีกมากมาย นี่ถ้าผมเขียนภาษาอังกฤษอีกล่ะก็ โนเปลก็โนเปลเถอะครับ เสร็จผม เอ๊ย เสร็จเจ้าโปรแกรมแสนวิเศษของผมแน่ ๆ เลย

ช่วงเวลาแห่งการขึ้นหิ้งนี้ช่างหอมหวานเสียเหลือเกิน ผมไม่มีเวลาจะไปเขียนบทกวีอีกแล้วล่ะครับ ทำไมเหรอครับ ? ก็มันขึ้นหิ้งแล้วนี่ครับ

อ้อ ถ้าคุณกำลังฝึกเขียนบทกวีแล้วอยากดัง อย่างผมล่ะก็ ผมไม่หวงหรอกนะจะส่งโปรแกรมไปให้ คุณลองใช้ดู ติดต่อเข้ามาสิครับที่ [email protected] เจอกันแน่ !สวัสดีครับ

End

อธิบายศัพท์

เว็บ : Web จริง ๆ แล้วแปลว่าใยแมงมุม แต่แปลในแบบ IT จะหมายถึงเครือข่ายที่เชื่อมโยงกันทั้งหมด คล้าย ๆ ใยแมงมุม Web นั้น เป็นการเรียกอย่างย่อ ซึ่งชื่อของเขาคือ World Wide Web หรือ www นั่นเอง

ดาวน์โหลด : Download เป็นกริยาหมายถึงการดึงลงมา ใช้กับเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ต ที่อุปมาว่า Internet นี้ อยู่ข้างบน ๆ ฉะนั้น หากว่าต้องการดึง “อะไร” ก็ตามบนอินเตอร์เน็ตให้ใช้วิธีการ ดาวน์โหลด คือ เปิดส่วนที่เราต้องการนั้น ๆ แล้วใช้คำสั่ง Download หรือ Save ลงมาเข้าไปเก็บไว้ที่อีกแห่งหนึ่ง ที่เราต้องการจะใช้งาน

แฮก : Hack เป็นลักษณะการจู่โจมเข้าไปทำการอย่างหนึ่งอย่างใดในที่ที่เขาไม่ปรารถนาให้เข้ามา ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นไปในลักษณะประสงค์ร้ายเสียมากกว่า

ไฟล์ : File แฟ้มข้อมูล ไว้สำหรับเก็บข้อมูลบนคอมพิวเตอร์ เหมือนกับเราเก็บเอกสารที่เป็นกระดาษไว้ ในแฟ้ม

โปรแกรม : Program ชุดคำสั่งที่สั่งงานให้คอมพิวเตอร์ทำ โปรแกรมจะถูกออกแบบและเขียนเอาไว้ก่อน แล้วจึงมีผู้นำไปใช้งาน ตามแต่ลักษณะของโปรแกรมนั้น โปรแกรมมีหลายรูปแบบและหลาก ประโยชน์ใช้สอย

แสกน : Scan การอ่านข้อความหรือรูปภาพทั้งหมดเป็นแบบผ่านไปเรื่อย ๆ จนครบส่วนที่ต้องการอ่าน และจะจดจำสิ่งที่ได้แสกนเอาไว้เพื่อเตรียมพร้อมให้ส่วนอื่น ๆ ในระบบเรียกใช้งาน

คอมแพร์ : Compare การเปรียบเทียบ “ค่า” ต่าง ๆ บนข้อมูลที่ต้องการระหว่างค่า ๆ หนึ่งที่อ่านได้กับ ค่าอื่น ๆ ที่มีอยู่หรือที่อ่านเข้ามาใหม่ก็ตาม แล้วส่งผลลัพธ์ที่ได้ไปยังส่วนต่อ ๆ ไป

ดาต้าเบส : Database ฐานข้อมูลเป็นระบบที่ทำการจัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ ที่ต้องการ มีรูปแบบคล้าย ๆ กับ ตู้เอกสารขนาดใหญ่ที่แยกแยะหมวดหมู่เอาไว้เพื่อสะดวกในการเรียกใช้

เซฟ : Save การจัดเก็บข้อมูลลงไว้ที่ที่จัดไว้ไม่ว่าจะเป็นการเซฟลงไฟล์ หรือเซฟลงดาต้าเบสก็ตาม